วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2558

มาทำความรู้จักกับ Cloud Computing กัน

Cloud ที่หลาย ๆ คนบ่นว่าเข้าใจยาก

มาทำความรู้จักกับ Cloud Computing กัน

คนส่วนใหญ่มักคิดว่าเรื่อง Cloud เป็นเรื่องของคนที่เชี่ยวชาญเทคโนโลยี พวกเราเข้าใจดีว่าหลายคนมีปัญหาในการหาข้อ­มูล และเมื่อไป search หาข้อมูลส่วนใหญ่ก็เป็นภาษาอังกฤษ และมีแต่คำศัพท์ที่เป็นเทคนิคมากมาย 

IRIS Team มีคำตอบให้

ขอนำเสนอ Clip ที่จะทำให้คุณยิ้มได้และเข้าใจ Cloud มากขึ้น

Cloud computing เทคโนโลยีเหนือเมฆ 1
Cloud computing เทคโนโลยีเหนือเมฆ 2

IRIS Team คือ กลุ่มคนที่เข้ามารวมตัวกัน พวกเราต้องการสร้างระบบ Cloud เพื่อสนับสนุนทุกคนที่มีความคิดริเริ่มสร้­างสรรค์ มีแรงบันดาลใจ มีเป้าหมาย ในการทำสิ่งใหม่ๆ ให้สามารถทำในสิ่งที่ต้องการ ติดตามเราได้

ขอบคุณข้อมูลจาก   IRIS ครับ

วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ขั้นตอนพิธีทบทวนคำปฏิญาณและสวนสนามลูกเสือ

ขั้นตอนพิธีทบทวนคำปฏิญาณและยวนสนามลูกเสือ

การจัดเตรียมสถานที่ ในการประกอบพิธีทบทวนกล่าวคำปฏิญาณและสวนสนาม
๑.ในการจัดพิธีภายในจังหวัดให้นำธงลูกเสือประจำจังหวัดอัญเชิญโดยกองลูกเสือเกียรติยศมาประจำแท่นที่เตรียมเพื่อรับการเคารพ 
๒.เครื่องหมายหรือธงที่จะแสดงจุดที่จะให้ลูกเสือแสดงความเคารพ จะมี ๓ จุด คือ 
      • ธงที่ ๑ ธงเตรียมทำเคารพอยู่ห่างจากผู้รับการเคารพไปทางซ้ายมือของผู้รับการเคารพ ๒๐ ก้าว 
      • ธงที่ ๒ ธงเริ่มทำความเคารพอยู่ห่างจากผู้รับการเคารพไปทางซ้ายมือของผู้รับการเคารพ ๑๐ ก้าว 
      • ธงที่ ๓ ธงเลิกทำความเคารพอยู่ถัดจากผู้รับการเคารพไปทางขวามือของผู้รับการเคารพ ๑๐ ก้าว 

ลูกเสือและผู้บังคับบัญชาลูกเสือที่จะเข้าร่วมพิธีสวนสนาม 
    ๑.ประธานในพิธีแต่งเครื่องแบบลูกเสือตามตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้ง กางเกงขาสั้น ซึ่งประธานถ สำหรับพิธีในจังหวัดจะได้แก่ผู้อำนวยการลูกเสือจังหวัด หรือรองผู้อำนวยการลูกเสือจังหวัด ประธานในพิธีสำหรับอำเภอ ได้แก่ ผู้อำนวยการลูกเสืออำเภอหรือรองผู้อำนวยการลูกเสืออำเภอ 
    ๒.แขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมในพิธีแต่งเครื่องแบบลูกเสือกางเกงขาสั้นตามตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้ง 
    ๓.ผู้กำกับกองลูกเสือและรองผู้กำกับกองลูกเสือแต่งเครื่องแบบลูกเสือกางเกงขาสั้นตามประเภทของลูกเสือที่ตนทำหน้าที่เป็นผู้กำกับกองและรองผู้กำกับกอง ถ้าเป็นลูกเสือสามัญ ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ลูกเสือวิสามัญ จะต้องมีไม้ถือของลูกเสือตามประเภทของลูกเสือ ส่วนลูกเสือสำรองไม่ต้องมีไม้ถือ 
     ๔.ลูกเสือแต่งเครื่องแบบลูกเสือตามประเภทของตน ลูกเสือสามัญ มีไม้พลอง นายหมู่มีธงหมู่ ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่และลูกเสือวิสามัญ มีไม้ง่าม นายหมู่มีธงหมู่ ลูกเสือสำรองไม่มีไม้พลองหรือไม้ง่าม 
     ๕.ลูกเสือผู้ทำหน้าที่ถือป้ายกองลูกเสือ ๑ คน แต่งเครื่องแบบตามประเภทที่ตนสังกัด 
     ๖.ลูกเสือผู้ทำหน้าที่ ถือธงประจำกองลูกเสือ ๑ คน แต่งเครื่องแบบตามประเภทที่ตนสังกัด 
     ๗.ลูกเสือ ๑ กองจะประกอบด้วยลูกเสือ ๖ - ๘ หมู่ หมู่ ๑ประกอบด้วยลูกเสือ ๗ - ๘ คน 
     ๘.ผู้กำกับกองลูกเสือ ๑ คนและรองผู้กำกับกองลูกเสือ ๑ คน ต่อลูกเสือ ๑ กอง 
     ๙.วงดุริยางค์ที่ร่วมในพิธีแต่งเครื่องแบบลูกเสือตามประเภทที่ตนสังกัด 
    ๑๐.ลูกเสือชาวบ้านแต่งชุดปกติสวมผ้าผูกคอลูกเสือชาวบ้านติดเครื่องหมายคณะลูกเสือแห่งชาติ 

การเตรียมแถวและรูปขบวนเพื่อทำพิธีสวนสนาม 

๑.ลูกเสือที่ทำหน้าที่ถือป้ายชื่อกองลูกเสือยืนอยู่ด้านหน้าสุด 
๒.ลูกเสือที่ทำหน้าที่ถือธงประจำกองลูกเสือยืนห่างจากผู้ถือป้ายกองลูกเสือ ๕ ก้าว 
๓.ผู้กำกับกองลูกเสือ ๑ คน ยืนห่างจากผู้ถือธงประจำกองลูกเสือ ๕ ก้าว 
๔.รองผู้กำกับกองลูกเสือ ๑ คน ยืนห่างจากผู้กำกับกองลูกเสือ ๕ ก้าว 
๕.ลูกเสือจัดแถวหน้ากระดานหมู่ปิดระยะ นายหมู่อยู่ทางขวามือ ห่างจากรองผู้กำกับฯ ๓ ก้าว 
๖.ระยะห่างระหว่างหมู่ ๑ ก้าว 
๗.ลูกเสือแต่ละกองจะมีผู้กำกับฯ ๑ คน และรองผู้กำกับฯ ๑ คน ยืนต่อกันไปด้านหลังจากกองที่ ๑ 
๘.กองลูกเสือของแต่ละโรงเรียนจะยืนเรียงกันไป ระยะห่างระหว่างกอง ๕ ก้าว 
๙.แถวกองผสม ซึ่งหมายถึงผู้กำกับฯที่มาร่วมพิธีและไม่ได้ประจำกองลูกเสือ จัดแถวหน้ากระดาน เรียง ๘ โดยมีผู้บังคับขบวนสวนสนามยืนตรงกลางหน้าสุด เมื่อเริ่มเดินสวนสนาม 
๑๐.แท่นรับความเคารพและพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่ตรงหน้าแถวลูกเสือทั้งหมด

การเริ่มพิธีสวนสนามและกล่าวคำปฎิญาณของลูกเสือ 
๑.กองลูกเสือตั้งแถวตามที่กำหนดไว้ ยืนอยู่ในท่าตามระเบียบพัก 
๒.กองผสมตั้งแถวอยู่ที่หัวขบวน 
๓.ผู้บังคับขบวนสวนสนามยืนประจำที่เตรียมพร้อมที่จะกล่าวรายงานต่อประธานในพิธี 
๔.แขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมพิธีตั้งแถวรอรับประธาน 
๕.เมื่อถึงเวลาประธานในพิธีมาถึงบริเวณพิธี ผู้บังคับขบวนสวนสนามสั่ง "ลูกเสือทั้งหมดตรง" "เคารพประธานในพิธี (ตรงหน้า-,ทางขวา,ทางซ้าย-ระวัง) " "วันทยาวุธ" ลูกเสือทุกคนทำความเคารพ ผู้ที่มีไม้พลอง ไม้ง่าม ทำวันทยาวุธ ผู้กำกับลูกเสือทำความเคารพด้วยท่าไม้ถือ แขกผู้มีเกียรติ และผู้ที่ไม่มีไม้ถือให้ทำวันทยาหัตถ์ ลูกเสือสำรองยืนในท่าตรงไม่ต้องทำ วันทยาหัตถ์ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์ผู้ที่ถือธงทำความเคารพด้วยท่าธง ผู้ถือป้าย ยืนตรงไม่ต้องทำวันทยาหัตถ์ประธานในพิธีและผู้ติดตามที่แต่งเครื่องแบบลูกเสือรับความเคารพ ด้วยการทำวันทยาหัตถ์ จนจบเพลงมหาฤกษ์ 
๖.เมื่อวงดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์จบ ผู้บังคับขบวนสวนสนามวิ่งไปรายงานจำนวนผู้บังคับบัญชา ลูกเสือและจำนวนลูกเสือที่มาร่วมในพิธีและเชิญประธานตรวจพลสวนสนามและเดินตามประธานตรวจพล พร้อมผู้ติดตาม ในขณะนั้นทุกคนทำวันทยาวุทธและท่าตรง เมื่อประธานเดินผ่านกองลูกเสือใดให้ผู้ถือธง ประจำกองลูกเสือทำความเคารพด้วยท่าเคารพธง จนตรวจครบทุกกองผู้บังคับขบวนสวนสนามส่งประธาน ประจำที่และกลับประจำที่เดิมสั่ง " เรียบ-อาวุธ " ทุกคนปฎิบัติตาม 
๗.ตัวแทนลูกเสือกล่าวรายงานกิจการลูกเสือในรอบปี หรือถ้ามีลูกเสือได้รับเครื่องหมายลูกเสือสรรถ เสริญหรือเหรียญสดุดีลูกเสือหรือได้รับเครื่องหมายวูดแบด ก็อาจจะทำพิธีมอบในเวลานี้ 
๘.ผู้บังคับขบวนสวนสนามสั่ง "ลูกเสือสำรองเตรียมกล่าวปฎิญาณ - ตามข้าพเจ้า -แสดงรหัส" ทุกคนแสดงรหัสลูกเสือสำรองแสดงรหัสลูกเสือสำรอง ด้วยการทำวันทยาหัตถ์ ๒ นิ้ว ลูกเสืออื่น และผู้อยู่ในบริเวณพิธีแสดงรหัสลูกเสือ ๓ นิ้ว ไม่ต้องกล่าวตาม ลูกเสือสำรองกล่าวตาม 
" ข้าสัญญาว่า" 
• ข้อ ๑ ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 
• ข้อ ๒ ข้าจะยึดมั่นในกฎของลูกเสือสำรองและบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่นทุกวัน 

เมื่อกล่าวจบ ผู้บังคับขบวนสนามสั่ง " ลูกเสือสามัญ -ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ๋-ลูกเสือวิสามัญ-ลูกเสือ ชาวบ้าน-กล่าวคำปฎิญาณตามข้าพเจ้า" ทุกคนยังแสดงหรัสอยู่และกล่าวคำปฎิญาณตาม ส่วนลูก เสือสำรองยืนในท่าตรง ไม่ต้องกล่าว 

" ด้วยเกียรติของข้า ข้าสัญญาว่า" 

• ข้อ ๑ ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 
• ข้อ ๒ ข้าจะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ 
• ข้อ ๓ ข้าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ 

เมื่อกล่าวจบ ผู้บังคับขบวนสวนสนามสั่ง " เอามือลง - ตามระเบียบพัก " ในการแสดงรหัสของลูกเสือที่ถือไม้พลองหรือไม้ง่าม ให้เอาไม้ง่ามหรือไม้พลองพิงไว้ที่ไหล่ซ้ายโคนไม้ อยู่ระหว่างปลายเท้าทั้ง ๒ แขนซ้ายงอตั้งฉาก มือขวาแสดงหรัส ผู้ที่ถือธงก็ปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้ที่ถือไม้ง่าม หรือไม้พลอง ผู้ที่ถือป้ายให้ถือป้ายด้วยมือซ้ายมือขวาแสดงรหัส ผู้กำกับที่มีไม้ถือก็แสดงรหัสด้วยมือขวา มือซ้ายถือไม้ถือ ลูกเสือหรือผู้บังคับบัญชาลูกเสือที่ไม่มีไม้ถือ ก็ให้ยืนตรงแสดงรหัสด้วยมือขวา 

๙.เมื่อกล่าวคำปฏิญาณจบประธานให้โอวาท เมื่อจบแล้ว ผู้บังคับขบวนสวนสนามสั่ง "ลูกเสือทั้งหมดตรง" "เตรียมสวนสนาม" หากมีแตรเดี่ยว แตรเดี่ยวก็จะวิ่งมาตรงหน้าประธานและเป่าแตรเตรียมสวนสนาม เมื่อแตรเป่าจบผู้บังคับขบวนสวนสนามสั่ง "ขวาหัน" ดุริยางบรรเลงเพลงเดินสวนสนาม เช่น เพลงสยามมานุสติ ผู้บังคับขบวนสวนสนามวิ่งไปยืนหน้ากองผสม สั่ง "กองผสม-หน้าเดิน" เมื่อเดินผ่านประธานแล้วให้วิ่งไปยืนทางด้านข้างประธานในท่าวันทยาวุทธ ส่วนกองผสมเดินผ่านไปแล้วเข้าประจำที่เดิม 

๑๐.สำหรับกองลูกเสือแต่ละกองเมื่อพร้อมแล้ว รองผู้กำกับฯของแต่ละกองสั่ง "แบกอาวุธ" "หน้าเดิน 

๑๑.เมื่อผู้กำกับกองลูกเสือเดินผ่านธงที่ ๑ ให้อยู่ในท่าบ่าอาวุธ ผ่านธงที่ ๒ ให้ทำความเคารพ ผ่านธงที่ ๓ ให้เลิกทำความเคารพ 

๑๒.เมื่อรองผู้กำกับกองลูกเสือผ่านธงที่ ๑ ให้สั่ง "ระวัง" และอยู่ในท่าบ่าอาวุธ เมื่อผ่านธงที่ ๒ ให้สั่ง "แลขวาทำ" ตัวรองผู้กำกับก็ทำความเคารพ เมื่อผ่านธงที่ ๓ ก็ให้เลิกทำความเคารพ 

๑๓.กองลูกเสือเมื่อรองผู้กำกับสั่ง "แบกอาวุธ"ก็แบกอาวุธและหน้าเดิน เมื่อได้ยินรองผู้กำกับฯสั่ง "ระวัง" ทุกคนก็เตรียมตัวทำความเคารพ เมื่อรองผู้กำกับฯสั่ง "แลขวาทำ " ทุกคนสลัดหน้าไปทางขวายกเว้น นายหมู่ให้หน้ามองตรง แขนแกว่งปกติทุกคน ทั้งนี้ให้เริ่มทำเมื่อได้ยินคำสั่งไม่ต้องรอให้ถึงธงที่ ๒ และเมื่อเดินถึงธงที่ ๓ ให้เลิกทำเองโดยไม่ต้องรอคำสั่ง ๑๔.สำหรับลูกเสือสำรองซึ่งไม่มีไม้พลองหรือไม้ง่าม เมื่อได้ยินคำสั่ง "ระวัง"ก็เดินปกติ เมื่อได้ยินคำ สั่ง "แลขวา-ทำ" ก็สลัดหน้าไปทางขวายกเว้นนายหมู่หน้ามองตรงไปข้างหน้า แขนทั้ง ๒ ข้างแนบลำตัวไม่ต้องทำวันทยาหัตถ์ เมื่อผ่านธงที่ ๓ ก็เดินแกว่งแขนปกติไม่ต้องรอคำสั่ง 

๑๕.เมื่อลูกเสือทุกกองเดินผ่านประธานครบแล้วก็เดินกลับประจำที่เดิมรอส่งประธาน 

๑๖.ผู้บังคับขบวนสวนสนามสั่ง "ลูกเสือทั้งหมด-ตรง" "เคารพประธาน-ตรงหน้าระวัง " "วันทยาวุธ" ดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์ ทุกคนทำความเคารพเหมือนเมื่อตอนที่ประธานมา 

๑๗.เมื่อวงดุริยางค์บรรเลงจบ ประธานกลับ ผู้บังคับขบวนสวนสนามสั่ง "เรียบ - อาวุธ" "เลิกแถว" เป็นอันเสร็จพิธี หลังจากนั้นอาจจะมีกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ของลูกเสือแต่ละกอง 

การทำความเคารพของผู้ถือธงประจำกองลูกเสือ 

• ขณะอยู่กับที่ 

• ให้ถือธงด้วยมือขวา โคนคันธงจรดพื้นและแนบกับลำตัว แขนซ้ายแนบลำตัวอยู่ในท่าตรง เมื่อได้ยินคำสั่งให้ทำความเคารพ ใช้มือซ้ายจับคันธงเหนือมือขวาและยกคันธงขึ้นมาด้วยมือซ้ายมือขวาจับคันธงเหยียด ตรงแนบลำตัว ยกคันธงขึ้นมาจนแขนซ้ายเสมอบ่าขวา ข้อศอกซ้ายตั้งได้ฉาก ครั้นแล้วทำกึ่งขวาหัน ลดปลายธงลงข้างหน้าช้าๆ จนคันธงขนานกับพื้น มือซ้ายอยู่เสมอแนวบ่าห่างจากตัวพอสมควร มือขวาจับโคนคันธง แขนเหยียดตรงไปทางด้านหลังตามแนวคันธง แล้วค่อยๆยกคันธงขึ้นช้าๆ จนคันธงตั้งตรง ทำกึ่งซ้ายหัน ใช้มือซ้ายจับคันธงลดลงมา จนมือซ้ายชิดมือขวา โค่นคันธงจรดพื้น สลัดมือซ้ายกลับอยู่ในท่าตรง ท่าตามระเบียบพักก็ยืนเหมือนกับที่ตรง เพียงหย่อนเข่าซ้ายหรือขวาเล็กน้อย 

• ขณะเดิน 

• เมื่อได้ยินคำสั่งให้สวนสนามและแบกอาวุธให้ใช้มือซ้ายจับคันธงเหนือมือขวาแล้วชิดมือขวายกคันธงขึ้นมา ด้วยมือซ้ายมือขวาเจับคันธงเหยียดตรงแนบลำตัว ยกคันธงขึ้มาจนแขนซ้ายเสมอบ่าขวาข้อศอกซ้ายตั้ง ได้ฉากปล่อยมือซ้ายกลับลงที่เดิม งอข้อศอกขวา ๙๐ องศา คันธงอยู่บนบ่าขวา อยู่ในท่าแบกอาวุธ เมื่อเดิน ถึงธงที่ ๑ (ธงระวัง) ให้ลดธงลง จากบ่ามาแนบลำตัว มือซ้ายจับคันธงข้อศอกงอตั้งฉากขนานกับพื้นแขนขวาเหยียดตรงข้าลลำตัว ปลายธงชี้ ตรง เมื่อถึงธงที่ ๒ (ธงทำความเคารพ) ให้เหยียดแขนซ้ายตรงไปข้างหน้ากำคันธงไว้ ให้คันธงเอนออกไปข้างหน้า ประมาณ ๔๕ องศา แขนขวาเหยียดตรงแนบข้างลำตัว ตาแลตรงไปข้างหน้า เมื่อถึงธงที่ ๓ (ธงเลิกทำความเคารพ) ให้ดึงธงขึ้นมาอยู่ในท่าตรงสลัดแขนซ้ายกลับที่เดิมงอข้อศอกขวาคันธงอยู่บนบ่าขวาอยู่ในท่าแบกอาวุธเดินไปตามปกติ 
โอกาสที่จะทำความเคารพจะทำเมื่อ มีการบรรเลงเพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงมหาฤกษ์เพลงมหาชัย เพลงสรรเสริญเสือป่า เมื่อธงคณะลูกเสือแห่งชาติ ธงลูกเสือจังหวัดที่เชิญผ่านไป องค์พระ ประมุขคณะลูกเสือแห่งชาติสมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ ประธานในพิธีการลูกเสือที่แต่งเครื่องแบบ 

ข้อห้ามของ 10 ประเทศอาเซียน ที่ควรรู้

วันนี้เรามาติดตามอัพเดทเรื่องราวของอาเซียน หรือ AEC ที่หลายคนอาจยังไม่รู้กัน อย่างเรื่อง ข้อห้ามของ 10 ประเทศอาเซียน ที่ควรรู้ ที่แต่ละประเทศนั้นเขาก็มีหลักความคิดแปลกๆ ที่อาจแตกต่างและไม่คุ้นชินอย่างบ้านเรา ดังนั้นเพื่อไม่ให้เราพลาดทำสิ่งต้องห้ามของเพื่อนบ้านอาเซียน และเพื่อจะได้เคารพสิทธิ์ของแต่ละประเทศได้อย่างถูกต้อง เราจึงต้องเตรียมความพร้อมด้วยเกร็ดความรู้ดีๆ ก่อนเปิดประตูสู่อาเซียนกัน
20140619223349

ข้อห้ามของ 10 ประเทศอาเซียน ที่ควรรู้

10555197_825221754157203_871577202_n 111
Info ข้อห้ามของ 10 ประเทศอาเซียน ที่ควรรู้
เริ่มต้นจาก 1.ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม (Brunei Darussalam)
ข้อห้ามควรรู้ :
1. ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าสีเหลือง เพราะถือเป็นสีของพระมหากษัตริย์
2. การทักทายจะจับมือกันเบาๆ และสตรีจะไม่ยื่นมือให้บุรุษจับ
3. การใช้นิ้วชี้ไปที่คนหรือสิ่งของถือว่าไม่สุภาพ แต่จะใช้หัวแม่มือชี้แทน
4. จะไม่ใช้มือซ้ายในการส่งของให้ผู้อื่น
5. สตรีเวลานั่งจะไม่ให้เท้าชี้ไปทางผู้ชายและไม่ส่งเสียงหรือหัวเราะดัง
6. วันหยุดคือวันศุกร์และวันอาทิตย์, วันศุกร์ 12.00-14.00 น.ทุกร้านจะปิด
7. จัดงานเย็นต้องจัดหลัง 2 ทุ่ม

2. ประเทศกัมพูชา (Cambodia)
ข้อห้ามควรรู้ :
1. ผู้หญิงห้ามแต่งตัวเซ็กซี่, ผู้ชายไว้ผมยาวจะมีภาพลักษณ์ นักเลง
2. ห้ามจับศีรษะ คนกัมพูชาถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดของร่างกาย
3. สบตามากเกินไป ถือว่าไม่ให้เกียรติ

3. ประเทศอินโดนีเซีย (Indonesia)
ข้อห้ามควรรู้ :
1. ไม่ควรใช้มือซ้ายในการรับ-ส่งของ คนมุสลิมอินโดนีเซียถือว่ามือซ้ายไม่สุภาพ
2. นิยมใช้มือกินข้าว
3. ไม่ควรชี้นิ้วด้วยนิ้วชี้ แต่ใช้นิ้วโป้งแทน
4. ไม่จับศีรษะคนอินโดนีเซียรวมทั้งการลูบศีรษะเด็ก
5. การครอบครองยาเสพติด อาวุธ หนังสือรูปภาพอนาจาร มีบทลงโทษหนัก อาทิ การนำเข้าและครอบครองยาเสพติดมีโทษถึงประหารชีวิต
6. บทลงโทษรุนแรงเกี่ยวกับการค้าและส่งออกพืชและสัตว์กว่า 200 ชนิด จึงควรตรวจสอบก่อนซื้อหรือนำพืชและสัตว์ออกนอกประเทศ
7. มอเตอร์ไซค์รับจ้างต้องมีมิเตอร์
8. งานศพใส่ชุดสีอะไรก็ได้

4. ประเทศลาว (Laos)
ข้อห้ามควรรู้ :
1. ลาวขับรถทางขวา
2. ติดต่อราชการต้องนุ่งซิ่น
3. เดินผ่านผู้ใหญ่ ต้องก้มหัว
4. ถ้าเพื่อนคนลาวเชิญไปพักที่บ้านห้ามให้เงิน
5. อย่าซื้อน้ำหอมให้กัน
6. เข้าบ้านต้องถอดรองเท้า และถ้าเขาเสิร์ฟน้ำต้องดื่ม

5. ประเทศมาเลเซีย (Malaysia)
ข้อห้ามควรรู้ :
1. ใช้มือขวาเพียงข้างเดียวในการรับประทานอาหาร และรับส่งของ
2. เครื่องดื่มแอลกฮอล์เป็นเรื่องต้องห้าม
asean-student
ข้อห้ามของ 10 ประเทศอาเซียน ที่ควรรู้
6. ประเทศเมียนมาร์ หรือพม่า (Myanmar)
ข้อห้ามควรรู้ :
1. ไม่ควรพูดเรื่องการเมือง กับคนไม่คุ้นเคย
2. เข้าวัดต้องถอดรองเท้า ถุงเท้า
3. ห้ามเหยียบเงาพระสงฆ์
4. ให้นามบัตรต้องยื่นให้สองมือ
5. ไม่ควรใส่กระโปรงสั้น กางเกงขาสั้น ในสถานที่สาธารณะและศาสนสถาน
6. ผู้หญิงชอบทาทะนาคา (ผู้ชายก็ทาด้วย) ผู้ชายชอบเคี้ยวหมาก

7. ประเทศฟิลิปปินส์ (Philippines)
ข้อห้ามควรรู้ :
1. เท้าสะเอว หมายถึง ท้าทาย, เลิกคิ้ว หมายถึง ทักทาย
2. ใช้ปากชี้ของ
3. กินข้าวบ้านเพื่อนสามารถห่อกลับได้ แต่ควรมีของฝากให้เขาด้วย
4. ตกแต่งบ้าน 2 เดือน ต้อนรับคริสต์มาส

8. ประเทศสิงคโปร์ (Singapore)
ข้อห้ามควรรู้ :
1. การหลบหนีเข้าสิงคโปร์และประกอบอาชีพเร่ขายบริการผิดกฎหมาย จะถูกลงโทษอย่างรุนแรง
2. การลักลอบนำยาเสพติด อาวุธปืนและสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ จะได้รับโทษอย่างรุนแรงถึงขั้นประหารชีวิต
3. ขึ้นบันไดเลื่อนให้ชิดซ้าย
4. ห้ามทิ้งขยะเรี่ยราด, ห้ามเก็บผลไม้ในที่สาธารณะ

9. ประเทศเวียดนาม (Vietnam)
ข้อห้ามควรรู้ :
1. เวียดนามไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพอาคารที่ทำการต่างๆ ของรัฐ
2. คดียาเสพติดการฉ้อโกงหน่วยงานของรัฐมีโทษประหารชีวิต
3. ตีกลองแทนออดเข้าเรียน
4. ชุดนักเรียนหญิงเป็นชุดอ่าวหญ่าย
5. คนภาคเหนือไม่ทานน้ำแข็ง
6. ไม่ถ่ายรูป 3 คนอย่างเด็ดขาด เพราะถือว่าจะทำให้เบื่อกัน หรือแแยกกันหรือใครคนใดเสียชีวิต
7. ต้องเชิญผู้ใหญ่ก่อนทานข้าว

10. ประเทศไทย (Thailand)
ข้อห้ามควรรู้ :
1. ไปศาสนสถานควรแต่งกายเรียบร้อย, ก่อนเข้าอุโบสถต้องถอดรองเท้า
2. ห้ามพระสงฆ์สัมผัสสตรี
3. สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่เคารพสัการะ การละเมิดใดๆ ถือเป็นความผิดตามรัฐธรรมนูญ
4. ทักทายกันด้วยการไหว้
5. ถือว่าเท้าเป็นของต่ำ ไม่ควรพาดบนโต๊ะ หรือเก้าอี้ หรือหันทิศทางไปที่ใคร
6. ธงชาติถือเป็นของสูง ไม่ควรนำมากระทำการใดๆที่เป็นการเหยียดหยาม
7. การแสดงออกทางเพศในที่สาธารณะ ยังไม่ได้รับการยอมรับในวัฒนธรรมไทย
เรียบเรียงข้อมูลโดย teen.mthai.com
ข้อมูลประกอบจาก thai-aec

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

การค้ามนุษย์

การดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

                        ประเทศไทยหยิบยกปัญหาการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจังตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๗ โดยมี พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ (The Anti-Trafficking in Persons Act 2008) และกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๕๙) ที่ให้ความสำคัญ ๕ ด้าน คือ การป้องกัน การดำเนินคดี   การคุ้มครองช่วยเหลือ การพัฒนากลไกเชิงนโยบายและการขับเคลื่อน การพัฒนาและการบริหารข้อมูล
๑ กลไกการดำเนินงานในประเทศไทย
                        กลไกการดำเนินงานเพื่อป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ประกอบด้วย คณะกรรมการระดับชาติ ๒ คณะ ได้แก่ (๑) คณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และ (๒) คณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปกค.) ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และคณะอนุกรรมการต่าง ๆ เพื่อผลักดันนโยบายระดับชาติ นอกจากนี้ พรบ. ดังกล่าว ยังได้มีการกำหนดให้จัดตั้งกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยมีการใช้เงินทุนในสองส่วน ได้แก่ การช่วยเหลือผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และ   การดำเนินโครงการเพื่อป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งหน่วยงานทั้งภาครัฐและองค์กรเอกชนสามารถเสนอโครงการเพื่อขอใช้งบประมาณกองทุนฯ โดยเลขาธิการของกลไกระดับชาติ รวมทั้งการบริหารกองทุนฯ อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
                        ในระดับจังหวัด มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ระดับจังหวัด ซึ่งประกอบด้วยกรรมการจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และในระดับหน่วยงาน หลายหน่วยงานได้จัดตั้งหน่วยงานย่อยที่มีภารกิจเฉพาะ โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปราบปราม เช่น กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ภายใต้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ ภายใต้สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นต้น
                        ทั้งนี้ รัฐบาลเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในกลไกทั้งในระดับชาติ โดยมีผู้ทรงคุณวุติจากภาคประชาสังคมเป็นกรรมการในคณะกรรมการระดับชาติ และระดับจังหวัด โดยมีองค์กรพัฒนาเอกชนเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ และมีส่วนร่วมอย่างมีนัยสำคัญในกระบวนการคัดแยกเหยื่อด้วย

๒. การดำเนินนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
                        เนื่องจากไทยอยู่ในสถานะประเทศต้นทาง ทางผ่าน และปลายทางของการค้ามนุษย์ นโยบายเพื่อแก้ไข ป้องกัน และปราบปรามการค้ามนุษย์ของไทย ให้ความสำคัญกับผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์เป็นหลัก (Victim-Centered) และมีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานหลายด้านที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการแสวงประโยชน์หรือการบังคับใช้แรงงาน การปราบปรามและดำเนินคดีขบวนการค้ามนุษย์ รวมถึงการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งนโยบายที่ไทยกำลังให้ความสำคัญในปัจจุบัน   มีดังนี้
                        การดำเนินงานเกี่ยวกับผู้โยกย้ายถิ่นฐานที่เหมาะสมของไทย เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๕๖  นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานการประชุมหารือในประเด็นดังกล่าว โดยเน้นการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน  และประสงค์ให้แรงงานต่างด้าวทั้งหมดได้รับการจดทะเบียนและพิสูจน์สัญชาติให้เรียบร้อยเพื่อให้สามารถอยู่ทำงานในไทยได้อย่างถูกต้องและได้รับสิทธิ/การคุ้มครองทางสังคมต่าง ๆ โดยรัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่อง    การปรับสิทธิด้านการรักษาพยาบาลแรงงานต่างด้าวจากเดิมที่มีอยู่ให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  ทั้งนี้ เพื่อรองรับการเตรียมตัวเข้าสู่ความเป็นประชาคมอาเซียน
                        การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในอุตสาหกรรมประมง ซึ่งมีการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่   (๑) การจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองซึ่งลักลอบทำงานบนเรือประมงปีละ ๒ เดือน     (๒) จัดตั้งศูนย์ประสานแรงงานประมงใน ๗ จังหวัดนำร่อง  (๓) การประกาศใช้แนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดีสำหรับสถานประกอบการแปรรูปสัตว์น้ำเบื้องต้นในอุตสาหกรรมแปรรูปกุ้งและอาหารทะเลในประเทศไทย (Good Labour Practices Guidelines for Primary Processing Workplaces in the Shrimp and Seafood Industry of Thailand - GLP/PPW) เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๕๖ ซึ่งเน้นการขจัดการใช้แรงงานบังคับ การใช้แรงงานเด็ก เสรีภาพในการสมาคม การเจรจาต่อรองร่วม และความร่วมมือในสถานประกอบกิจการ การไม่เลือกปฏิบัติ ค่าจ้าง ชั่วโมงการทำงาน ค่าชดเชย ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานและสวัสดิการ และ  (๔) การเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจแรงงานประมง
                        การช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยเน้นการดำเนินงานที่การให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดย (๑) อนุญาตให้อยู่ใน ปทท. ได้ชั่วคราวเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย และจิตใจ รวมทั้งการฝึกอาชีพและทักษะ  (๒) การอนุญาตให้ผู้เสียหายสามารถออกไปทำงานนอกบ้านพักเมื่อมีความพร้อม  (๓) การดำเนินคดีเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมให้กับผู้เสียหายจากภาครัฐ และจากผู้กระทำผิดฐานค้ามนุษย์

๓. การดำเนินความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
                        กระทรวงการต่างประเทศมีภารกิจที่เกี่ยวข้องในด้านการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายชาวไทยในต่างประเทศ ผ่านการดำเนินงานของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลทั่วโลก มีส่วนในกระบวนการกำหนดนโยบายโดยคณะกรรมการระดับชาติ และการดำเนินความร่วมมือในประเด็นการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ ทั้งในระดับทวิภาคีและระดับพหุภาคี ซึ่งการดำเนินงานระดับระหว่างประเทศที่สำคัญ มีดังนี้
    ๓.๑ ระดับทวิภาคี
                        ๓.๑.๑ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขจัดการค้าเด็กและสตรีและการช่วยเหลือเหยื่อของการค้ามนุษย์ (MOU on Bilateral Cooperation for Eliminating Trafficking in Children and Women and Assisting Victims of Trafficking) ซึ่งไทยได้มีความตกลงกับกัมพูชา (ปี ๒๕๔๖) ลาว (ปี ๒๕๔๘) เวียดนาม (ปี ๒๕๕๑) และเมียนมาร์ (ปี ๒๕๕๒) โดยกำลังมีความริเริ่มปรับเนื้อหาของ MoU เพื่อให้เป็นปัจจุบันเพื่อสามารถรองรับสถานการณ์การค้ามนุษย์ที่เปลี่ยนแปลงไป และอยู่ระหว่างการหารือเพื่อจัดทำกรอบความร่วมมือกับอีกหลายประเทศที่มีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นต้นทางของผู้เสียหายในประเทศไทย และ/หรือปลายทางของคนไทยที่ตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
                              ๓.๑.๒ การจัดทำบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยกับญี่ปุ่นว่าด้วยการแลกเปลี่ยนข่าวสารสำหรับการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ (Memorandum of Cooperation between the Government of Japan and Thailand concerning the Exchange of Information for the Purpose of Preventing and Combating Trafficking in Persons) เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนผู้ต้องสงสัยในคดีค้ามนุษย์ ขยายผลการจับกุมและดำเนินคดีผู้กระทำความผิดทั้งในไทยและญี่ปุ่นอย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนความร่วมมือทางกฎหมายระหว่างไทยกับญี่ปุ่น
                              ๓.๑.๓ การจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลว่าด้วยความร่วมมือ
ด้านการจ้างแรงงาน 
ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงของการค้ามนุษย์ในภาคแรงงาน โดยเฝ้าระวังการแสวงผลประโยชน์โดยมิชอบจากการผลักดันแรงงานอพยพไปทำงานในประเทศปลายทาง ซึ่งในปัจจุบันไทยมีความตกลงในลักษณะนี้กับอิสราเอล และกำลังอยู่พิจารณาร่างความตกลงกับบังกลาเทศ
   ๓.๒ ระดับภูมิภาค และระหว่างประเทศ
                        ๓.๒.๑ กระบวนการบาหลี (Regional Ministerial Conference on People Smuggling, Trafficking in Persons and Related Transnational Crime - Bali Process) เป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเกี่ยวกับการลักลอบขนคนเข้าเมือง การค้ามนุษย์ และอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยสมาชิก ๔๖ ประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ และประเทศผู้สังเกตการณ์ ๑๙ ประเทศ มี Steering Group ซึ่งไทยเป็นสมาชิก สนับสนุนการทำงานของ ออสเตรเลีย และอินโดนีเซียในฐานะประธานร่วม โดยได้จัดตั้ง สนง. สนับสนุนระดับภูมิภาค (Regional Support Office – RSO)   ที่กรุงเทพฯ เพื่ออนุวัติกรอบความร่วมมือระดับภูมิภาค (Regional Co-operation Framework – RCF) ซึ่งเปิดทำการเมื่อเดือนกันยายน ๒๕๕๕  ทั้งนี้ ประเทศไทยได้มีส่วนร่วมในกระบวนการบาหลี ดังนี้ (๑) มีผู้แทนไทย (ดร.ชัชชม อรรฆภิญญ์ สำนักงานอัยการสูงสุด) เป็นผู้ประสานงานคณะทำงานนโยบาย กรอบกฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมาย (Coordinator of Bali Process activities on Policy and Law Enforcement Response)  (๒) ให้เงินอุดหนุนการดำเนินงานของ RSO และกระบวนการบาหลีระหว่างปี ๒๕๕๕-๒๕๕๗ เป็นจำนวนเงิน ๓๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ  (๓) ริเริ่มกิจกรรมในกรอบกระบวนการบาลี     เช่น ร่วมกับออสเตรเลียเพื่อจัดประชุมปฏิบัติการในหัวข้อการให้สัตยาบันและการดำเนินงานตามพันธกรณีของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร (UNTOC) เมื่อปลายปี ๒๕๕๕ ซึ่งจะได้มีการต่อยอดกิจกรรมดังกล่าวในช่วงปี ๒๕๕๗

                              ๓.๒.๒  อาเซียน
                                                -  กลไกในกรอบอาเซียนเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ที่ไทยเป็นภาคี ได้แก่ASEAN Declaration Against Trafficking in Persons Particularly Women and Children ปี ๒๕๔๗ ซึ่งเน้นการบังคับใช้กฎหมาย การคัดแยกเหยื่อออกจากผู้กระทำผิด และการกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงแก่ผู้กระทำผิดฐานค้ามนุษย์ และสนธิสัญญาว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องทางอาญาของภูมิภาคอาเซียน (The Treaty on Mutual Legal Assistance in Criminal Matters among Like-Minded ASEAN Member Countries) ไทยได้ให้สัตยาบันสนธิสัญญาฯ เมื่อ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๖ ซึ่งจะทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพความร่วมมือในการดำเนินคดีค้ามนุษย์ในอาเซียนได้อีกทางหนึ่ง
                                    -  กลไกหลักในกรอบอาเซียนที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาจัดทำ ได้แก่ Regional Plan of Action to Combat Trafficking in Persons ซึ่งไทยและสิงคโปร์ได้เริ่มผลักดันใน  การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ (SOMTC) ครั้งที่ ๑๒ ในเดือนกันยายน ๒๕๕๕ ที่กรุงเทพฯ ให้สอดคล้องและสะท้อนความพยายามระดับภูมิภาคเพื่อสนับสนุนแผนระดับโลก UN  Global Plan of Action to Combat Trafficking in Persons และการจัดทำอนุสัญญาอาเซียนว่าด้วยการค้ามนุษย์ (ASEAN Convention on Trafficking in Persons) ซึ่งในระหว่างการประชุม AMMTC เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๕๖ ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาปรับแก้ร่างเอกสารทั้งสองฉบับ ทั้งนี้ โดยเป็นการเสริมความร่วมมือที่มีอยู่ในกรอบ Coordinated Mekong Ministerial Initiative against Trafficking (COMMIT)
     ๓.๓  การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในกรอบสหประชาชาติ
                        ๓.๓.๑  อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่
จัดตั้งในลักษณะองค์กร (United Nations Convention against Transnational Organized Crime – UNTOC)ไทยลงนาม UNTOC  เมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๔๓ รวมทั้งลงนามพิธีสารว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม และลงโทษการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะสตรีและเด็ก (Protocol to Prevent, Suppress and Punish Trafficking in Persons, Especially Women and Children) และพิธีสารว่าด้วยการต่อต้านการลักลอบขน
ผู้โยกย้ายถิ่นฐานโดยทางบก ทะเล และอากาศ (Protocol Against the Smuggling of Migrants by Land, Sea and Air) เมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๔๔  ทั้งนี้ ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ และพิธีสารว่าด้วย    การป้องกัน ปราบปราม และลงโทษการค้ามนุษย์ฯ ตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
---------------------------------------
                                                                                          กองการสังคม
                                                                                                กรมองค์การระหว่างประเทศ.

วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ไวรัสเมอร์ส (MERS-CoV) ระบาด


แม้ว่าไวรัสเมอร์สคอฟสายพันธุ์ใหม่จะยังไม่มาถึงประเทศไทย แต่ควรรู้และป้องกันไว้ก่อนเพราะเป็นเชื้อใหม่ล่าสุดที่ยังไม่มียารักษา

ระวังไวรัสเมิร์สคอฟ,MERS,MERS-CoV,เชื้อโรค,ไวรัส,ป่วย,ติดเชื้อ,วัคซีน,
ทำไมชื่อ เมอร์สคอฟมาจากชื่อเต็มภาษาอังกฤษว่า Middle East respiratory syndrome coronavirus (MERS-CoV) หรือเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ตะวันออกกลาง


ต้นกำเนิดของไวรัสเมอร์สคอฟ
ไวรัสชนิดนี้ต้นกำเนิดจากประเทศซาอุดิอาระเบียและยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่ามีต้นกำเนิดจากคนหรือสัตว์หรือเชื้อใด แต่มีผลวิจัยระบุว่าอาจมีแพะเป็นพาหะนำเชื้อ และเป็นเชื้อไวรัสใกล้เคียงไวรัสในค้างคาวสายพันธุ์หนึ่ง ทั้งนี้วัสเมอร์สเป็นเชื้อไวรัสเดียวกับโรคซาร์ส (Severe Acute Respiratory Syndrome-SARS) ที่แพร่ระบาดอย่างหนักในเอเชียเมื่อปี พ.ศ. 2546

ระวังไวรัสเมิร์สคอฟ,MERS,MERS-CoV,เชื้อโรค,ไวรัส,ป่วย,ติดเชื้อ,วัคซีน,


ความร้ายแรงของไวรัสเมอร์สคอฟ
ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเมอร์สจะมีอาการคล้ายเป็นโรคระบบทางเดินหายใจมีไข้สูงไอ หายใจหอบ หายใจขัด ถ่ายเหลว หากเป็นหนักจะเสียชีวิตทันทีภายใน 3 -4 สัปดาห์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุเพศชาย โดยเชื้อจะอยู่ในละอองน้ำมูกน้ำลายผู้ป่วย ติดต่อได้ง่ายจากการไอจาม โดยผู้ป่วยเกือบทั้งหมดร้อยละ 96 มีโรคประจำตัว 1 โรคหรือมากกว่า ได้แก่เบาหวาน รองลงมาคือความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคไต


ภาพ : โรงพยาบาลสมิติเวช


การป้องกันเบื้องต้นไวรัสเมอร์สคอฟ
1. กินร้อน- ช้อนกลาง- ล้างมือ
2. ใช้ผ้าหรือกระดาษปิดปากเมื่อจาม
3. หลีกเลี่ยงไปสถานที่ที่ผู้คนแออัด
4. สวมหน้ากากอนามัยหากต้องไปสถานที่ที่ผู้คนจำนวนมากโดยเฉพาะช่วงพิธีฮัจญ์และอุมเราะห์
5. หมั่นออกกำลังกายและรักษาสุขภาพให้แข็งแรง
6. มาพบแพทย์พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่หากมีประวัติเดินทางไปประเทศที่มีการระบาดของเชื้อ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย การ์ตา จอร์แดน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ ฝรั่งเศส ตูนิเซีย เยอรมนี อิตาลี โอมาน คูเวต มาเลเซีย กรีซ และฟิลิปปินส์



ประเทศที่ยังพบผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์สคอฟอย่างต่อเนื่อง
หลังจากเริ่มมีรายงานผู้ป่วยตั้งแต่วันที่20กันยายน 2556 เป็นต้นมายังพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องใน 11 ประเทศ ได้แก่ จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ อังกฤษ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฝรั่งเศส ตูนีเซีย เยอรมนี อิตาลี โอมาน และคูเวต ล่าสุดพบผู้ที่เสียชีวิตหลังจากติดเชื้อไวรัสเมิร์สคอฟที่ประเทศฟิลิปปินส์และมาเลเซีย โดยองค์การอนามัยโลกรายงาน ณ วันที่ 16 เมษายน 2557 พบผู้ป่วยยืนยัน 238 ราย เสียชีวิต 92 ราย

หากสงสัยว่าตนเองมีอาการดังกล่าวให้รีบพบแพทย์ทันที ไม่ต้องรอถึง 2 วัน หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติม โทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง
จาก 
เว็บไซต์มติชน
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
http://www.momypedia.com

วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เสริมความปลอดภัยให้แอพ Google Drive

วิธีตั้งค่าเสริมความปลอดภัยให้แอพ Google Drive ด้วยการตั้งรหัส Passcode

google_drive_ios_passcodeหลายๆท่านได้ใช้ประโยชน์จากบริการฝากข้อมูลและบริการเกี่ยวกับแอพสำนักงาน Google docs ซึ่งรวมไว้ในแอพ Google Drive ให้คุณสามารถฝากข้อมูล ฝากรูปภาพ วีดีโอ พร้อมความสามารถแชร์เอกสารให้กับเพื่อนๆ สามารถแก้ไขไฟล์พร้อมๆกัน แถมมีตัวแก้ไขเอกสาร รูปภาพบนเว็บ google drive ด้วย  ล่าสุด google ได้อัพเดตให้ google drive ให้สามารถตั้งรหัส Passcode ป้องกันคนอื่นแอบเข้าถึง google drive ผ่านสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตแล้ว

วิธีการตั้งค่าตั้งรหัสผ่าน 4 ตัว (passcode) บนแอพ google drive บน iOS

google_drive_ios_passcode-01ให้ทำการอัพเดตแอพ Google Drive ผ่านทาง App Store ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดก่อน เมื่ออัพเดตเรียบร้อย เปิดแอพ google drive (หากไม่ได้ sign in ให้ทำการ sign in เข้าสู่ระบบด้วยบัญชี gmail ของคุณ )
google_drive_ios_passcode-02เมื่อเข้าสู่หน้าหลักของ google drive ดังรูปแล้ว ให้แตะที่รายการเมนูบริเวณข้างๆ My Drive ตามรูปบน
google_drive_ios_passcode-03จะปรากฎเมนูแถบสีดำ ให้แตะที่ไอคอนตั้งค่า ดังรูป
google_drive_ios_passcode-08

ตั้งรหัสเป็นตัวเลข 4 ตัว  2 ครั้ง เพื่อเปิดการใช้งาน Passcode
google_drive_ios_passcode-09เมื่อใส่รหัสผ่านเสร็จเรียบร้อย ก็จะขึ้นรายการเกี่ยวข้องกับ Passcode Lock ให้คุณสามารถเปลี่ยนรหัสผ่านได้ หรือสั่งให้ปิด Passcode ได้
google_drive_ios_passcode-10คราวนี้เมื่อออกจาก google drive แล้วมาเปิด google drive ใหม่ แอพจะถามรหัส Passcode 4 หลัก ให้กรอกรหัสผ่าน 4 ตัวให้ถูกต้อง  ถ้าไม่ทราบรหัสละก็หมดสิทธิ์เข้าถึงไฟล์บนอุปกรณ์ iOS นี้
ฟีเจอร์ Passcode บน google drive สามารถใช้ได้แล้วบนอุปกรณ์ iOS    ส่วน Android นั้นยังไม่มี ณ ขณะนี้ ทาง google  จะมีการอัพเดตให้ android ตามมาภายหลัง
ข้อมูลจาก http://www.it24hrs.com/2012/how-to-secure-dropbox-files-android/

เพิ่มความปลอดภัยให้ Dropbox

วิธีป้องกันไม่ให้คนอื่นเข้าถึงข้อมูล Dropbox บนมือถือ Android ของคุณ

Dropbox บริการ File Sync ผ่าน Cloud ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง สามารถใช้ได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค มือถือ และแท็บเล็ต ทำให้คุณสามารถฝากไฟล์ และแชร์ไฟล์ได้ทุกที่ทุกเวลา เปิดไฟล์งานที่ไหนบนอุปกรณ์ไหนก็ได้ที่ลงแอพ dropbox  แต่ก็มีโอกาสโดนคนอื่นแอบ copy ไฟล์เราใน dropbox ไปแชร์ได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นวันนี้จะมาเริ่มเสริมความปลอดภัยอีกขั้นให้กับ Dropbox  บนมือถือกันโดยบทความนี้จะบอกวิธีเสริมความปลอดภัย Dropbox บนมือถือ  Android
เปิดแอพ Dropbox ก่อนแล้วกดปุ่มเมนู แล้วเลือกที่ Setting เพื่อเข้าสู่การตั้งค่าของแอพ Dropbox
จากนั้นเลือก Passcode Lock
เลือก Turn passcode on  เพื่อเปิดโหมดรักษาความปลอดภัยด้วยเลขรหัสผ่าน
พิมพ์รหัสผ่านด้วยตัวเลข 4 ตัว 2 ครั้ง
เพียงเท่านี้ Dropbox ก็จะได้รับการปกป้องข้อมูลเสริมความปลอดภัยมากขึ้นแล้ว แนะนำควรเปลี่ยนรหัสบ่อยๆด้วย เพื่อป้องกันคนอื่นที่แอบรู้รหัสเดิมเราแอบมาป้อนเอาข้อมูลจาก dropbox เราไป  
(** ขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยด้วยเลขรหัสผ่านให้กับ Dropbox บนมือถือ Android นี้ บน iOS อย่าง iPhone iPod touch และ iPad ก็มีด้วยเช่นกัน แต่ขั้นตอนเปิดโหมดนี้อาจต่างกันเพียงเล็กน้อย )
ข้อมูลจาก CNET

วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

คุณลงทะเบียนซิมแล้วหรือยัง

ตรวจสอบซิมเติมเงินว่าลงทะเบียนซิมแล้วหรือยัง? และขั้นตอนการลงทะเบียนซิม


simcard-ss
กสทช. เตือนผู้ใช้มือถือเติมเงิน รีบดำเนินการลงทะเบียนซิม ก่อน 31 กค.นี้ เนื่องจาก 1 สิงหาคม ถ้าใครที่ใช้โทรศัพท์มือถือแบบซิมเติมเงิน แต่ไม่ได้ทำการลงทะเบียนซิมยืนยันแสดงตัวตนต่อผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ  เลขหมายซิมที่ไม่ได้ทำการลงทะเบียนจะไม่สามารถโทรออก ใช้เน็ต หรือให้บริการได้  ตามที่ กสทช. ได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 21 มกราคม เลยวันนี้จะมาดูวิธีการตรวจสอบว่าเบอร์มือถือเติมเงิน ที่ท่านใช้อยู่นั้น ลงทะเบียนซิมแล้วหรือยัง ถ้ายัง จะต้องดำเนินการลงทะเบียนซิมมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ?

ขั้นตอนการตรวจสอบว่าลงทะเบียนซิมแล้วหรือยัง ?

check-register-simcard
หยิบโทรศัพท์มือถือ แล้วกดที่ *151# แล้วกดปุ่มโทรออก ระบบก็จะตอบรับว่าได้ลงทะเบียนซิมแล้วหรือยัง หากมีการลงทะเบียนซิมแล้ว ทางเครือข่ายจะแจ้งว่าลงทะเบียนเรียบร้อย หรือ บอกว่าซิมนี้มีการลงทะเบียนซิมแล้วโดยปรากฎหมายเลขประชาชน ปรากฎตรงหน้าจอ  ซึ่งกรณีนี้ก็ไม่ต้องไปลงทะเบียนซิมใหม่อีก
sim-register-nbtc-01
ท่านสามารถลงทะเบียนซิมได้ตามศูนย์ หรือร้านค้า ที่มีสัญลักษณ์นี้
แต่ถ้าเบอร์มือถือของท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนซิม จะขึ้นรหัส ให้นำรหัสที่ปรากฎบนมือถือ พร้อมนำบัตรประชาชนตัวจริงมาด้วย มาแสดงต่อที่ โอเปอร์เรเตอร์มือถือในไทยที่คุณใช้บริการอยู่ ( เช่น AIS Shop , Telewiz , DTAC Hall , dtac shop, true shop , CAT , ศูนย์บริการ TOT ) และตามร้านค้าที่มีป้ายสัญลักษณ์“กสทช. โทรคมนาคม 2 แชะ แวะลงทะเบียนซิม”  ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ ซึ่ง ณ ขณะนี้ครอบคลุมแล้วกว่า 5 หมื่นจุด และสามารถลงทะเบียนซิมยืนยันแสดงตนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถึง 31 กรกฎาคม 2558  ฟรี !! ไม่เสียค่าบริการใดๆทั้งสิ้น
** หมายเหตุ  ร้านที่มีป้ายสัญลักษณ์ สัญลักษณ์ “กสทช. โทรคมนาคม 2แชะ แวะลงทะเบียนซิม”   แสดงว่าเป็นร้านที่ทาง กสทช.ให้การรับรองแล้ว และมั่นใจว่าจะไม่นำหลักฐานบัตรประชาชนนี้มาใช้ทำอย่างอื่นอย่างแน่นอน ข้อมูลนี้จะจัดส่งถึง กสทช. และผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือโดยตรง

ขั้นตอนการลงทะเบียนซิมเติมเงิน ที่ศูนย์ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ และ ร้านค้าที่ กสทช. รับรอง

  1. นำโทรศัพท์มือถือ พร้อม บัตรประชาชนตัวจริง หรือ Passport ตัวจริง มาที่ศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือ หรือ มาที่ร้านค้ามือถือที่ มีสัญลักษณ์ “กสทช. โทรคมนาคม 2แชะ แวะลงทะเบียนซิม”   
  2. จากนั้นกด *151# แล้วกดปุ่มโทรออก เพื่อแสดงรหัสโค้ดเพื่อลงทะเบียนซิม
sim-register-nbtc-02 ( หน้าตาแอพที่ร้านค้าจะใช้แอพนี้ดำเนินการลงทะเบียนซิมให้ลูกค้า จัดทำแอพโดย กสทช. )
ทางร้านค้า จะหยิบมือถือที่ลงแอพพลิเคชั่นลงทะเบียนซิม ที่จัดทำโดย กสทช.  ร้านค้าจะรันแอพแล้วกดเลือกเครือข่ายที่ท่านใช้เบอร์มือถือเติมเงินนั้นอยู่ แล้วร้านค้าจะหยิบมือถือถ่ายแชะครั้งแรกโดยถ่ายที่รหัสแสดงบนมือถือของคุณ  จากนั้น ร้านค้าจะใช้แอพถ่ายบัตรประชาชน หรือ Passport หรือบัตรที่ราชการออกให้ ไว้เป็นหลักฐาน เป็นแชะที่2   ข้อมูลที่ถ่ายด้วยแอพนี้จะส่งไปยัง ศูนย์กลางของ กสทช. และผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่คุณใช้งานอยู่ ซึ่งแอพข้อมูลที่ถ่ายไว้จะไม่เก็บไว้บนมือถือของร้านค้าเด็ดขาด
ซึ่งขั้นตอนการลงทะเบียนซิมครั้งนี้  กสทช. ชี้แจงว่า ใช้เวลาไม่เกิน 60 วินาที เสร็จ!! อย่างรวดเร็วและถูกต้อง ไม่ต้องกรอกเอกสาร ไม่ต้องปิดเครื่องถอดซิม และไม่ต้องถ่ายเอกสารเลย เพียงแค่ใช้บัตรประชาชนตัวจริงให้เจ้าหน้าที่ถ่ายเท่านั้น
ส่วนการลงทะเบียนซิมช่องทางของ dtac ที่ว่าให้กด *102* หมายเลขประชาชน 13 หลัก โทรออกนั้น  สรุปแล้วช่องทางนี้จะไม่ใช่ช่องทางที่ลงทะเบียนซิมได้สมบูรณ์จนกว่าคุณจะนำบัตรประชาชนตัวจริงพร้อมซิม มาแสดงตัวที่ศูนย์บริการ DTAC
ส่วนการจำหน่ายซิมเติมเงินของทาง MY BY CAT และ TOT3G นั้นมีกระบวรการที่เข้มงวดอยู่แล้ว โดยต้องไปยื่นบัตรประชาชน กรอกรายละเอียดเจ้าของผู้ถือซิมรายนี้ ตลอดจนสำหรับผู้ซื้อซิม MY จาก Shop ร้านมือถือทั่วไป ต้องยืนยันที่ศูนย์บริการ CAT เพื่อดำเนินการเปิดเบอร์ใช้บริการ ซึ่งดำเนินมานานแล้ว ก่อน กสทช.ประกาศบังคับลงทะเบียนซิม
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.it24hrs.com/2015/nbtc-how-to-register-thai-sim-card/

วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2558

พรวันเกิด

พรวันเกิด


สุข  เกษมเปรมปรีด์ในชีวิต            สันต์  สนิทสมมาตรปรารถนา
วัน  และคืนร่ำรวยทรัพย์นับคณา    เกิด  เรี่ยวแรงแข็งกล้าอายุยืน

อายุ ยืนหมื่นปี ไม่มีหมอง              วรรณะ ผ่อง โสภา สง่าศรี 
สุขะ ห่ม กายรื่น ชื่นชีวี                พละ แข็งแรงดี ทุกวี่วัน

ขอบคุณของขวัญจากใจ               ที่เธอให้โดยการมาหา
บอกความห่วงใยในดวงตา            เป็นของขวัญที่ล้ำค่าเกินกว่าใคร

ขอให้มีความสุขมากมาย              จากผู้ชายขี้อายคนนี้
อยากให้เธอเจอสิ่งที่ดีๆ                กับวันเกิดปีนี้ Happy Birthday

สุขสันติ์วันเกิดเถิดที่รัก                 ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ป้องคุ้มครองขวัญ
มีโชคลาภสุขทรัพย์นับอนันต์          สมใจพลันสิ่งปรารถนาสถาพร

Happy Happy มีความสุข           birth day ทุกสิ่งครบ ประสบขวัญ
มีชีวิตเริงรื่นชื่นชีวัน                    พรอนันต์สุขประเสริฐเกิดแก่เธอ

ดอกไม้งาม ช่อนี้ มีความหมาย       ให้สหาย ในวันเกิด ประเสริฐศรี
ขอให้เจอ คนรัก แสนภักดี            โชคทวี มีสุข ทุกคืนวัน

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าวันนี้วันอะไร รู้ด้วยว่ามีใครแก่ขึ้นอีก 1 ปี

แค่เธอมาหา บอกความห่วงใยในดวงตา เป็นของขวัญที่ล้ำค่าเกินกว่าใคร

ให้โชคดีมีชัยในวันเกิด                 สุขประเสริฐเถิดคุณบุญรักษา
มีชื่อเสียงลือเลื่องเปรื่องปรีชา        ปรารถนา สิ่งใด สมใจเทอญ

สรรหาของขวัญมาชิ้นหนึ่ง            อยากให้เธอซึ้งกับความหมาย
ต้นไม้หนึ่งต้นแทนหัวใจ               เติบโตด้วยรักและแรงใจจากเธอ
กับวันคล้ายวันเกิดในปีนี้              คงไม่มีอะไรจะมอบให้
นอกจากความรักที่มีในหัวใจ         รับหรือไม่ตามแต่ใจของเธอ

คลับคล้ายคลับคลาว่าวันเกิดเธอ     ออกจะเบลอๆว่าใช่หรือไม่
แต่ถ้าไม่ใช่ก็คงไม่เป็นไร               จะบอกให้...วันนี้วันเกิดฉันเอง

สุขสันต์วันเกิดเธอก่อนนอน          ฉันมีพรประเสริฐจะมอบให้
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย        คุ้มครองให้เธอมีสุขทุกคืนวัน

กับวันธรรมดาวันหนึ่ง                  กลับดูซึ้งมีความหมาย
เพียงมีเธออยู่ข้างกาย                  ของขวัญชิ้นใดคงไม่อาจเทียบทัน

ได้เวลาฤกษ์งามยามดี                  ที่ฉันคนนี้จะอวยพรให้
ขอให้มีรักมีสุขเสมอไป                 และว่างๆไวๆ...จะพาฉันไปเลี้ยงสักที

อาจเป็นแค่หนึ่งวันในหนึ่งปี          และเป็นเพียงแค่วันธรรมดาวันหนึ่ง 
แต่วันนั้นกลับมีความหมายอย่างคาดไม่ถึง เพราะมีเธอมาทำซึ้งอยู่ข้างกาย

Happy Birthday ด้วยหัวใจ         ฝากส่งไปผ่านฟากฟ้า
คิดอะไรขอให้ได้ตามปรารถนา        ชีวิตชีวามีแต่สิ่งดีๆ

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าวันนี้วันอะไร          รู้ด้วยว่ามีใครแก่ขึ้นอีก 1 ปี
แหนะ...อย่าเพิ่งน้อยใจสิคนดี          เพราะยังมีความน่ารักทวีขึ้นด้วยทุกวัน

อยากขอบคุณเธอผู้น่ารัก              ที่ทำให้วันเกิดฉันปีนี้มีความหมาย
เปี่ยมด้วยความรักความเข้าใจ        ขอบคุณเธอมากมายจริงๆ

ฉันคงนอนหลับไม่สบาย               ถ้าไม่ได้เพจหาเธอในตอนนี้
Happy Birthday นะคนดี           ขอให้มีความสุขทุกๆวัน

เอาเป็นว่าขอให้เจอคู่                  ให้เจอคนรู้ใจในปีนี้
นี่คือคำอวยพรวันเกิดที่แสนดี        ด้วยความปรารถนาดีจากใจ

อวยพรให้สุขสันต์ในวันเกิด           ให้บรรเจิดสุขสว่างดั่งฟ้าใส
ให้ผ่านพ้นอุปสรรคปราศจากภัย     ให้สุขกายสุขใจไปทั้งมวล

จะเอาหัวใจใส่กล่อง                    ผูกปากไม่ให้มันร้องไปไหน
ห่อกระดาษด้วยความจริงใจ          ผูกโบว์สีสดใสยื่นให้เธอ

ขออวยชัยให้ท่านสนานสนุก          คนปลอบปลุกสุขประเสริฐเกิดปีนี้
ให้แสนสวยรวยรักคนภักดี             ตลอดปี...ดีเลิศ..วันเกิดเธอ

ให้คุณพระคุ้มครองป้องปกปิด        สิ่งศักดิ์สิทธิ์ รัก ปราถนา มาครบถ้วน
ให้เดินบนกลีบกุหลาบอันอบอวล    สุขทั้งมวลนอบน้อมให้ด้วยใจเอย

ก็ไม่มีอะไรจะให้...                      มีแต่ความจริงใจที่ให้เสมอ
อาจเป็นของขวัญที่ดูไม่เลิศเลอ       แต่อยากให้เธอได้เห็นถึงคุณค่าของมัน

สุขสันต์วันเกิดเถิดนะจ๊ะ               ขอคุณพระปกป้องคุ้มครองขวัญ 
ให้โชคดีมีทรัพย์นับอนันต์             ทุกคืนวันประสบสุขสิ้นทุกข์ภัย

วันเวลาผันเปลี่ยนเวียนมาครบ       จึงบรรจบอีกครั้งดั่งวันนี้
ขออวยพรให้สุขสวัสดี                  สุขชีวี ปราศโศก ทุกข์โรคภัย

สุขสันต์วันเกิดเถิดคนดี                ทุกความรู้สึกที่มีฉันให้
จากวันนี้และวันต่อต่อไป              เธอปรารถนาใดใดสมใจพลัน

โตเป็นสาวแล้วนะจ๊ะ                   รีบๆหาแฟนหน่อยนะเพื่อนซี้ 
เดี๋ยวได้ขึ้นคานตายพอดี               อยู่คนเดียวทั้งปีไม่ดีหรอกเธอ

ข้อมูลจาก  http://www.rakjung.com/birthday-poems-no96.html